ผมน่าไว้วางใจเลยขอรับว่าการชวยคุณหรือการพูดไม่เก่งนั้นคือปัญหาของคนอีกหลายๆคนอย่างแน่แท้
อาจเกิดจากว่าไม่เคยทราบว่าจะชักชวนพูเรื่องอะไรดี นึกไม่ออกบอกผิด หรือจะมีเรื่องมีราวที่กล่าวแม้กระนั้นเพียงพออยู่ในเหตุการณ์การณ์จริงนั้น ทำให้สมองของคุณนั้นว่างเปล่าขึ้นมา ทำให้ลุกลนไปหมดกำเนิดอาการกระอักกระอ่วมจนถึงทำอะไรผิด เปลี่ยนเป็นมิได้บอกและก็จับโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นมาปัดเล่นแทน เรื่องอย่างงี้นั้นมิได้เกิดเรื่องที่ไม่ถูกอะไร ที่พวกเราจะมีลักษณะอาการอย่างงั้น เนื่องจากสมองของพวกเรามิได้รับการฝึกอบรมมากพอจนถึงทำให้สมองของพวกเราได้คิดรวมทั้งประเมินผลออกมาตอนนั้นกันเหตุการณ์ในเวลานั้นเป็นที่เป็นระเบียบแล้ว ให้พวกเรานึกออกมากล้วยๆโดนมิได้คิดอะไรเยอะแยะ แล้วก็ทำอะไรลงไปในทันที แม้กระนั้นถ้าหากเอ่ยถึงในทางตรงกันข้ามนั้น หากพวกเราเป็นผู้ที่เชิญพูดเก่งแล้วก็คุยเก่งก็จะก่อให้เหตุการณ์ในขณะนั้นแปลงเป็นเหตุการณ์ที่สนุกขึ้นมาได้ คนกลุ่มนี้นั้นก็เป็นผู้ที่กล่าวไม่เก่งมาก่อน แม้กระนั้นได้รับการฝึกอบรมจนกระทั่งแปลงเป็นผู้ที่คุยเก่งขึ้นมานั้นเอง จำเป็นต้องฝึกหัดนึกถึงสิ่งที่พวกเรามองเห็นอยู่เป็นประจำ หรือคิดอยู่เสมอเวลาว่าจะคุยเรื่องอะไรดี วิธีการทำแบบงี้จะได้เป็นการฝึกหัดให้สมองได้คิด แม้กระนั้นหากว่าไม่รู้จักจริงๆหรือจำไม่ได้ ผมเสนอแนะให้เป็นกรรมวิธีเขียนเรื่องมา ว่าพวกเราจะไปพบคนนี้ พวกเราจะไปที่อย่างนี้พวกเราควรบอกเรื่องอะไร รวมทั้งคาดการณ์เหตุว่าคนเหล่านั้นเขาจะบอกเรื่องอะไรกัน หรือพวกเราบางทีก็อาจจะตั้งหาปัญหาขึ้นมาว่าพวกเราจะถามอะไรกับเค้าเหล่านั้นบ้าง ในแต่ละเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ หรือมีเรื่องมีราวอะไรบ้างที่พวกเราต้องการจะทราบจากเขาไม่ว่าจะเกิดเรื่องงาน เรื่องเฉพาะบุคคล หรือหัวข้อต่างๆที่พวกเราถามไปแล้วเขาจะไม่รู้เรื่องสึกอึดอัด
ผมขอยกตัวอย่างขึ้นมาบอกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจากตัวผมเองแล้วกัน ผมได้เริ่มฝึกหัดงานกับสถานที่ทำงานใหม่ไม่กี่อาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมานี้เอง พอใช้ได้เริ่มฝึกหัดงานก็ได้มีโต๊ะเป็นของตนเอง รวมทั้งมีเพื่อนพ้องโต๊ะด้านข้างจำต้องบอกเลยขอรับว่าที่ผ่านมาผมกับเขาก็มิได้กล่าวอะไรกันเลย เพราะว่ามองไปแล้วเขาก็เป็นผู้ที่พูดน้อยแบบเดียวกัน ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นผู้ที่กลัวที่จะทักเขาเนื่องจากรู้สึกว่าเขาบางทีอาจรังเกียจให้คนไหนมายุ่ง แม้กระนั้นผมก็ได้ตั้งประณิธานไว้เลยนะครับว่ายังยังไงผมก็จะคุยแล้วก็ทำความรู้จักกับเขาให้ได้ โดยอย่างแรกที่ผมสังเกตุได้เป็นเขาเป็นผู้ที่มาดำเนินงานรุ่งเช้ามากมาย ภายหลังจากวันนั้นผมก็กลับไปคิดแล้วว่าจะถามประเด็นการเดินทางหรือบ้านพัก พอเพียงถึงเวลาแล้วที่จำต้องชักชวนคุยแล้ว เพียงพอเขาเข้ามานั่งที่โต๊ะ ผมก็ถามเขาในทันทีกับเรื่องที่ผมต้องการคุยกับเขา แล้วคำตอบก็คือเขาก็คุยกับผมดีเยี่ยมแล้วก็เป็นผู้ที่เอฮาสะถ้าเช่นนั้น นั่นแหละนะครับรวมๆแล้วการจะเป็นผู้ที่คุยเก่งแล้วก็เชิญชวนพูดเก่งได้ ก็จำต้องมีเหตุมาจากความองอาจที่จะกล่าวและก็การวางเป้าหมายการพูดที่ดีเพียงเท่านี้เองขอรับ