จากกระแสต้านทานการเสนอ กฏหมายใหม่จดทะเบียนสัตว์เลี้ยง ที่ผู้กุมอำนาจในรัฐบาลอยากได้ หนุนสร้างข้อเรียกเก็บเงิน
จากผู้เลี้ยงสัตว์ในกรุ๊ปสุนัขแมว โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินปริมาณ 450 บาท ต่อ หนึ่งตัว ซึ่งอิงเหตผลว่าจะใช้เป็นค่าสัญลักษณ์ประจำตัวสัตว์ 300 บาท สมุดประจำตัวสัตว์ 100 บาท ค่าคำขอให้ช่วยเหลือขึ้นบัญชี 50บาท
ซึ่งจะมุ่งนำส่งข้อแนะนำไปยังคณะกรรมการติดต่อประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หวังจัดการกับปัญหาสัตว์จรจัดซึ่งคือปัญหาสำคัญที่อ้างถึงว่าจะต้องรีบปรับแก้โดยมีค่าปรับ ถ้าหากฝืนการนำสัตว์เลี้ยงไปจดทะเบียน สูงสุดไม่เกิน25,000 บาทนั้น ปรากฏว่าแปลงเป็นที่สร้างกระแสวิจารณ์ โต้เถียงกันบนโลกอินเตอร์เน็ตที่ แตกออกเป็นสองฝั่ง ระหว่างฝั่งผู้เห็นด้วยกับการเก็บค่าธรรมเนียม 450 บาท
กับคนที่ไม่เห็นพ้อง ถึงความแจ้งชัด ของเงิน 450 บาท ที่ดินรัฐบาลจะนำไปใช้ทำอะไร ซึ่งคนภายในอีกข้างได้อ้างถึงสิ่งที่แตกต่างกับข้อบังคับในต่างถิ่น ซึ่งทางต่างชาตินั้นมีการนำเอางบประมาณที่ได้รับจากส่วนนี้ ไปเพิ่มผลประโยชน์คุ้มครองปกป้องดูแลสัตว์เลี้ยงสามัญชนอย่างดีเยี่ยมทั้งยังค่ายังชีพนั้น ก็แตกต่างกันกับบ้านพวกเรา รวมทั้งปัญหา สุนัข-แมว จรจัดข้างในวัดที่ไม่กระจ่าง ว่าผู้ใดกันจะเป็นผู้จะรับผิดชอบชีวิตไม่น้อยเลยทีเดียวกลุ่มนี้
ในเวลาเดียวกันยังมีการคำนวณในเรื่องที่ถ้าหากว่าตัวบทกฎหมายดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ผ่านการพินิจ แล้วก็ถูกนำออกมาใช้จริง เฉลี่ยแล้วรัฐบาลจะเก็บค่าจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงได้ราว 4,500 ล้านบาทจากอัตยี่ห้อสัตว์เลี้ยงทั้งยังสุนัขรวมทั้งแมว ศูนย์รวมกันได้มากยิ่งกว่า 10 ล้านตัว
อย่างไรก็ตามในต่างชาติที่มีการเสียค่าจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงด้วยเหมือนกัน
มีการชำระเงินไปช่วยเหลือศูนย์พักอาศัย สัตว์จรจัด อยู่เสมอ ทั้ง ยังสามารถนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถบริการสาธารณะได้ ที่สามารถนำสัตว์จรจัด หรือ สัตว์เลี้ยงพาไปโรงหมอได้ แล้วก็ฯลฯ ก็เลยทำให้ประชากรคนไทยอยากความชัดเจน ถึงผลตอบแทนด้านสังคม ที่ตนจำต้องเสียค่าจดทะเบียน และไม่อยากที่จะให้เงินกว่า 4,500 ล้านบาท ถูกใช้ไปอย่างไร้ผล
โดยภายหลังที่กำเนิดกระแสบนโลกสังคมออนไลน์ที่มีการคัดค้าน กันอย่างมากมายถึงกับมีเสียงแตกออกเป็นข้างใหญ่ๆ
อันทำให้ ทาง คณะรัฐมนตรี ได้มีการพิจาราณาความเห็นให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ยื่นเสนอข้อกฏหมายใหม่นี้นำร่างพระราชบัญญัติดังที่ได้กล่าวมาแล้วกลับไปใคร่ครวญทวนไขปัญหาใหม่ ให้ไม่ทำให้เกิดผลเสียเป็นภาระหน้าที่ต่อราษฎร แล้วก็ คุ้มครองการปลดปล่อยสัตว์เลี้ยงทิ้ง ด้วยเหตุว่าจำเป็นต้องเสียตังค์ค่าขึ้นบัญชีของคนรับสัตว์จรจัดมาเลี้ยง ซึ่งบางทีอาจเกิดปัญหาซ้ำกับปัญหาบางมุมมองเดิมๆเพิ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ หรือบางทีอาจนำพามาซึ่งปัญหาใหม่ๆ
ทั้งยังมีข้อความสำคัญของประเด็นการเลี้ยงสัตว์ที่มิได้มีสาเหตุมาจากการต้องการเลี้ยง แม้กระนั้นเป็นการเลี้ยงเพื่ออุปถัมภ์ค้ำชูสัตว์ที่หลายข้าง มีความเห็นว่าไม่สมควรจัดเก็บเงินคนรับชุบเลี้ยงสัตว์อีกด้วย แต่แผนการนี้ยังคงมีการหาหนทางที่จะถูกพรีเซ็นท์อีกรอบ แม้กระนั้นบางทีอาจเป็นในฉบับที่มีการปรับปรุง ซึ่งการเกิดที่สังคมมีการตื่นตัวนี้นับว่าเป็นสัญญาณที่หลายข้างจะให้การตระหนักถึงการคิดในเรื่องพวกนี้กันอย่างเป็นจริงเป็นจังเยอะขึ้น